วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การทัศนศึกษา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

1.ให้นิสิตเขียนสื่อตามประสบการณ์การเรียนรู้ของเอดการ์เดล ในสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ว่ามีสื่ออะไรบ้าง และแต่ละสื่อมีสาระนำเสนออะไร (อธิบายพอสังเขป) 

                ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ 2 ประสบการณ์จำลอง (Contrived Simulation Experience) เช่น การจำลองสัตว์น้ำ และปะการัง

                ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ 3 ประสบการณ์นาฏกรรม หรือการแสดง (Dramatized Experience) เช่น การให้อาหารปลา

ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ 5 การศึกษานอกสถานที่ (Field Trip) เช่น การไปศึกษาสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ 6 นิทรรศการ (Exhibition) เช่น การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์น้ำทางทะเล

ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ 9 การบันทึกเสียง วิทยุ และภาพนิ่ง (Recording, Radio and Picture) เช่น รูปภาพสัตว์น้ำต่างๆ

ประสบการณ์การเรียนรู้ที่ 11 วจนสัญลักษณ์ (Verbal Symbol) เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์น้ำทางทะเล

2.ให้นิสิตอธิบายหลักและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเทคโนโลยีการศึกษาที่นำมาใช้ในสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

การจำลองระบบนิเวศใต้ท้องทะเลไว้ในตู้อันตรทัศน์
                - มีการใช้เทคโนโลยีในการตรวจวัดคุณภาพน้ำ
                - มีการใช้เทคโนโลยีในการหมุนเวียนน้ำเพื่อรักษาความสะอาดของระบบนิเวศภายในตู้

3. ให้เขียนผังความคิดความรู้ที่ได้จากการทัศนศึกษา ณ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล



4. ให้นิสิตอธิบายประเภทของวัสดุกราฟิกที่ใช้ในงานสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล พร้อมยกตัวอย่าง

1. สื่อกราฟิก 2 มิติ เช่น ภาพโปสเตอร์เกี่ยวกับสัตว์น้ำ มีการใช้ตัวอักษร
2. สื่อกราฟิก 3 มิติ เช่น หุ่นจำลองของสัตว์น้ำ มีตู้อันตรทัศน์
3. สื่อกราฟิกตั้งแสดง เช่น ป้ายนิเทศที่เกี่ยวกับข้อมูลสัตว์น้ำ

5. ให้นิสิตบันทึกภาพของตนเองในขณะเยี่ยมชมสถาบันวิทยาสาสตร์ทางทะเล และ Print เพื่อปะติดลงกระดาษ พร้อมบันทึกลงบน Weblog







6. ให้นิสิตเขียนบันทึกเรื่องราวพร้อมรูปภาพของตนสาระที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ลงใน Weblog 

                การได้มาทัศนศึกษาที่สถาบันสัตว์น้ำวิทยาศาสตร์ทำให้ดิฉันได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์น้ำทางทะเล ได้รู้ถึงข้อมูลเชิงลึกของพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ ได้รับชมการแสดงให้อาหารปลา เป็นการแสดงที่ให้ทั้งความตื่นเต้น และน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดต้องขอขอบคุณข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือจากวิทยากรเป็นอย่างมาก














7. คำถามที่หาคำตอบได้ในสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล

7.1 ราชาและราชินีที่เปรียบเสมือนอัญมณีแห่งท้องทะเล คือสัตว์ชนิดใด
ตอบ ปลาฉลาม และนากทะเล

7.2 น้ำทะเลที่อยู่ในตู้ปลานำมาจากไหน
ตอบ มาจากแสมสาร อ. สัตหีบ จ.ชลบุรี

7.3 ปลาเศรษฐกิจมีกี่ชนิดอะไรบ้าง
ตอบ มี 2 ชนิด คือ เพื่อความสวยงาม และ เพื่อเป็นอาหาร

7.4 บริเวณชั้น 2 ของสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลมีการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร และมีสิ่งใดที่เป็นวัสดุกราฟิกบ้าง

ตอบ  เป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล ช่วงแรกเป็นการแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับพระราชกรณีกิจทางด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และด้านวิทยาศาสตร์การประมง ต่อมาเป็นการแสดงถึงเรื่องราวของอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตในทะเล ต่อมาจึงเป็นส่วนของนิเวศวิทยาทางทะเลและสัตว์ทะเลที่มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทย มีการจัดแสดงเครื่องมือที่ใช้ในการประมงและเรือประมง และพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย

วัสดุกราฟิก
มีหุ่นสัตว์น้ำจำลอง มีสัตว์น้ำของจริง มีตู้อันตรทัศน์ มีกระบะทราย มีแผนภูมิต้นไม้พูดถึงอาณาจักรสัตว์น้ำ

7.5 การนำเสนอเรื่องราวในส่วนของแสดงพันธุ์สัตว์น้ำชั้น 1 มีกี่หัวข้อ ประกอบด้วยอะไรบ้าง และใช้สื่อเทคโนโลยีการศึกษาใดบ้าง

ตอบ มี 6 หัวข้อ ประกอบด้วย
1. มีการแสดงสัตว์อาศัยบริเวณชายฝั่งที่มีปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลง เช่น แมงดาทะเล, ปลิงทะเล, หอยเม่น, ปลาดาวทะเล, ปูเสฉวน, ดอกไม้ทะเล
2. ปลาในแนวปะการังซึ่งอาศัยอยู่อย่างเกื้อกูลกัน เช่น ปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเล
3. สัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง
4. ปลาเศรษฐกิจ
5. ปลาที่มีพิษ
6. ปลาที่อาศัยอยู่ในมหาสมุทรและบ่อฉลาม

สื่อเทคโนโลยีการศึกษา

1.ของจำลองหุ่นจำลองขนาดเท่าหรือขยายเท่าของจริง
2.ตู้อันตรทัศน์
3.กระบะทราย
4.จอฉายสัตว์น้ำ
5.ตู้ปลาขนาดใหญ่
6.สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ


7.6 การนำเรื่องราวในส่วนของแสดงพันธุ์สัตว์น้ำชั้น 2 มีกี่หัวข้อ ประกอบด้วยอะไรบ้าง และใช้สื่อเทคโนโลยีการศึกษาใดบ้าง

                ตอบ  มี 5 หัวข้อ ประกอบด้วย

1. การแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับพระราชกรณีกิจทางด้านการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และด้านวิทยาศาสตร์การประมง
2. เรื่องราวของอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตในทะเล
3. นิเวศวิทยาทางทะเลและสัตว์ทะเลที่มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของคนไทย
4. จัดแสดงเครื่องมือที่ใช้ในการประมงและเรือประมง
5. พิพิธภัณฑ์เปลือกหอย 

สื่อเทคโนโลยีการศึกษา

1. มีหุ่นสัตว์น้ำจำลอง
2. มีสัตว์น้ำของจริง
3. มีตู้อันตรทัศน์
4. มีกระบะทราย
5. มีแผนภูมิต้นไม้พูดถึงอาณาจักรสัตว์น้ำ
6. มีโทรทัศน์ในการอธิบายข้อมูล


7.7 สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลเป็นแหล่งการเรียนรู้ ประเภทใด และสามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มสาระใดได้บ้าง 

ตอบ ประเภทวัตถุและอาคารสถานที่ สามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มสาระ
1.วิทยาศาสตร์
2.สังคม
3.คณิตศาสตร์
4.ภาษาอังกฤษ
5.การงานอาชีพและเทคโนโลยี

7.8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ใดสำหรับการศึกษาในระบบโรงเรียนที่เหมาะสมกับการเชื่อมโยงในการใช้แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้

                ตอบ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์


วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กิจกรรมท้ายบทที่ 9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา

1.จงอธิบายถึงคุณค่าและการใช้เทคโนโลยี Cloud computing เพื่อการศึกษา

                1.ประยุกต์ใช้ในติดต่อสื่อสารระหว่างในการทำกิจกรรมการเรียนการสอน
                2.การประยุกต์ใช้ในการปัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์บทเรียน สื่อการเรียนการสอน
                3.การประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาบทเรียนออนไลน์ของผู้สอน
                4.การประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนแบบการเรียนรู้ร่วมกัน
                5.การประยุกต์ใช้ในการให้บริการงานห้องสมุด

2.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยี Web 2.0 และ Web 3.0 พร้อมประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษา

                Web 2.0 (ช่วงปี ค.ศ. 2000-2010) เป็นการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่สื่อสารแบบสองทาง ที่เน้นการปฏิสัมพันธ์กับเครือข่ายในรูปแบบของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันข้อมูล เช่น Blog Wiki โดยจะทำงานร่วมกับ HTML
                Web 3.0 (ช่วงปี ค.ศ. 2010-2020) มีการออกแบบและพัฒนาตอบสนองความต้องการของแต่ละคนมากยิ่งขึ้นในรูปแบบ Segment of One คือ Segment ส่วนประกอบต่างๆ ที่ได้แบ่งความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ต้องการค้นหาของแต่ละคน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลได้

3.Youtube  คือสื่อสังคมออนไลน์ประเภทใด และมีประโยชน์กับการศึกษาหรือไม่อย่างไร

                กลุ่มเครื่องมือสำหรับแบ่งปันใช้ร่วมกัน (Share Tools) เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ให้บริการให้ผู้ใช้สามารถนำเสนอทรัพยากรสารสนเทศมัลติมีเดียที่หลากหลาย มีประโยชน์ในการศึกษา เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และตอบสนองความต้องการของการเรียนรู้ได้อย่างดี

4.ทักษะที่จำเป็นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาใหม่ของครู มีอะไรบ้าง

                1.ทักษะในการเข้าถึง
                2.ทักษะในการประเมิน
                3.ทักษะในการใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสร้างสรรค์
                4.ทักษะในการจัดการเชื่อมต่อสารสนเทศ
                5.ทักษะในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เหมาะสม
                6.ทักษะในการนำเสนอสื่อได้อย่างเหมาะสม
                7.ทักษะในการใช้เครื่องมือสื่อสาร เชื่อมโยงเครือข่าย และสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
                8.ทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการวิจัย จัดระบบ และสื่อสารสนเทศได้อย่างเหมาะสม
                9.ทักษะในการใช้ซอฟท์แวร์ที่เหมาะสมกับการศึกษาระดับต่างๆ ได้
                10.ทักษะในการพัฒนาตนเองให้ทันสมัยและติดตามความเจริญก้าวหน้าของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาได้
                11.ทักษะในการวิเคราะห์และแสดงให้เห็นปัญหา

5.จงเขียนตารางวิเคราะห์เหมือน และความแตกต่างระหว่าง Web – Based Instruction, Mobile Learning, Hybrid Learning และ HyFlex Learning


เทคโนโลยีการสอน


ความเหมือน

ความแตกต่าง

Web – Based Instruction

สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างสะดวกสบาย

การจัดการเรียนการสอนผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ที่ใช้กระบวนการการออกแบบระบบการเรียนการสอน


Mobile Learning

สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างสะดวกสบาย

สามารถเข้าถึงเนื้อหาได้อย่างสะดวกผ่านเครื่องมืออุปกรณ์สื่อสารแบบเคลื่อนที่


Hybrid Learning

การจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานที่ผู้สอนเป็นผู้ออกแบบระหว่างกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบเผชิญหน้าในชั้นเรียนเช่นเดียวกับ HyFlex Learning

การนำศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษามาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล


HyFlex Learning

การจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานที่ผู้สอนเป็นผู้ออกแบบระหว่างกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนแบบเผชิญหน้าในชั้นเรียนเช่นเดียวกับ Hybrid Learning


ตอบสนองการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างแท้จริง เนื่องจากผู้เรียนสามารถเลือกกิจกรรมการเรียนการสอนได้ด้วยตนเอง

6. เทคโนโลยี Cloud computing คืออะไร และมีประโยชน์กับการจัดการศึกษาหรือไม่อย่างไร

                เป็นบริการพื้นฐานของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่ให้ความสะดวกกับผู้ใช้ โดยไม่ต้องผ่านแม่ข่าย หรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และสามารถให้บริการทั้งเก็บข้อมูลสารสนเทศ และสามารถเรียกคืนสารสนเทศได้อย่างสะดวก

                ประโยชน์ในการจัดการศึกษา

                1.ประยุกต์ใช้ในติดต่อสื่อสารระหว่างในการทำกิจกรรมการเรียนการสอน
                2.การประยุกต์ใช้ในการปัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์บทเรียน สื่อการเรียนการสอน
                3.การประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาบทเรียนออนไลน์ของผู้สอน
                4.การประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนแบบการเรียนรู้ร่วมกัน
                5.การประยุกต์ใช้ในการให้บริการงานห้องสมุด


วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กิจกรรมท้ายบทที่ 9 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา

1.จงอธิบายถึงคุณค่าและการใช้เทคโนโลยี Cloud computing เพื่อการศึกษา
                1.ประยุกต์ใช้ในติดต่อสื่อสารระหว่างในการทำกิจกรรมการเรียนการสอน
                2.การประยุกต์ใช้ในการปัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์บทเรียน สื่อการเรียนการสอน
                3.การประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาบทเรียนออนไลน์ของผู้สอน
                4.การประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนแบบการเรียนรู้ร่วมกัน
                5.การประยุกต์ใช้ในการให้บริการงานห้องสมุด
2.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยี Web 2.0 และ Web 3.0 พร้อมประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษา
                Web 2.0 (ช่วงปี ค.ศ. 2000-2010) เป็นการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่สื่อสารแบบสองทาง ที่เน้นการปฏิสัมพันธ์กับเครือข่ายในรูปแบบของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันข้อมูล เช่น Blog Wiki โดยจะทำงานร่วมกับ HTML
                Web 3.0 (ช่วงปี ค.ศ. 2010-2020) มีการออกแบบและพัฒนาตอบสนองความต้องการของแต่ละคนมากยิ่งขึ้นในรูปแบบ Segment of One คือ Segment ส่วนประกอบต่างๆ ที่ได้แบ่งความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ต้องการค้นหาของแต่ละคน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลได้
3.Youtube  คือสื่อสังคมออนไลน์ประเภทใด และมีประโยชน์กับการศึกษาหรือไม่อย่างไร
                กลุ่มเครื่องมือสำหรับแบ่งปันใช้ร่วมกัน (Share Tools) เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ให้บริการให้ผู้ใช้สามารถนำเสนอทรัพยากรสารสนเทศมัลติมีเดียที่หลากหลาย มีประโยชน์ในการศึกษา เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และตอบสนองความต้องการของการเรียนรู้ได้อย่างดี
4.ทักษะที่จำเป็นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาใหม่ของครู มีอะไรบ้าง
                1.ทักษะในการเข้าถึง
                2.ทักษะในการประเมิน
                3.ทักษะในการใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสร้างสรรค์
                4.ทักษะในการจัดการเชื่อมต่อสารสนเทศ
                5.ทักษะในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เหมาะสม
                6.ทักษะในการนำเสนอสื่อได้อย่างเหมาะสม
                7.ทักษะในการใช้เครื่องมือสื่อสาร เชื่อมโยงเครือข่าย และสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
                8.ทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการวิจัย จัดระบบ และสื่อสารสนเทศได้อย่างเหมาะสม
                9.ทักษะในการใช้ซอฟท์แวร์ที่เหมาะสมกับการศึกษาระดับต่างๆ ได้
                10.ทักษะในการพัฒนาตนเองให้ทันสมัยและติดตามความเจริญก้าวหน้าของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาได้

                11.ทักษะในการวิเคราะห์และแสดงให้เห็นปัญหา

กิจกรรมท้ายบทที่ 8 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา

1.จงให้นิยามความหมายของคำว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา”

                เป็นการผสมผสานกันของเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) + เทคโนโลยีการสื่อสาร (Communication Technology) ซึ่งเมื่อนำมาประยุกต์ใช้ในเกิดประโยชน์และประสิทธิภาพทางการศึกษา

2.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษามีความสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาอย่างไร

                1.เป็นเครื่องมือในการอำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน
                2.ช่วยในการจัดระบบบริหารจัดการศึกษาให้เป็นระบบและรวดเร็ว
                3.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลิตสื่อในการเรียนรู้
                4.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง
                5.ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเสนอ
                6.ช่วยขยายโอกาสทางการศึกษา
                7.ช่วยในการสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนความรู้

3.บทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาในศตวรรษที่ 21 มีอะไรบ้าง

                1.บทบาทในการเข้าถึง (Access)
                2.บทบาทในการจัดการ (Manage)
                3.บทบาทในการบูรณาการ (Integrated)
                4.บทบาทในการประเมินผล (Evaluate)
                5.บทบาทในการสร้างสรรค์ (Create)

4.จงอธิบายถึงคุณค่าและการใช้เทคโนโลยี Cloud computing เพื่อการศึกษา

                1.ประยุกต์ใช้ในติดต่อสื่อสารระหว่างในการทำกิจกรรมการเรียนการสอน
                2.การประยุกต์ใช้ในการปัญญาเรื่องลิขสิทธิ์ในการสร้างสรรค์บทเรียน สื่อการเรียนการสอน
                3.การประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาบทเรียนออนไลน์ของผู้สอน
                4.การประยุกต์ใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนแบบการเรียนรู้ร่วมกัน
                5.การประยุกต์ใช้ในการให้บริการงานห้องสมุด

5.จงอธิบายความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยี Web 2.0 และ Web 3.0 พร้อมประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษา

                Web 2.0 (ช่วงปี ค.ศ. 2000-2010) เป็นการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตที่สื่อสารแบบสองทาง ที่เน้นการปฏิสัมพันธ์กับเครือข่ายในรูปแบบของเครือข่ายสังคมออนไลน์ ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันข้อมูล เช่น Blog Wiki โดยจะทำงานร่วมกับ HTML
                Web 3.0 (ช่วงปี ค.ศ. 2010-2020) มีการออกแบบและพัฒนาตอบสนองความต้องการของแต่ละคนมากยิ่งขึ้นในรูปแบบ Segment of One คือ Segment ส่วนประกอบต่างๆ ที่ได้แบ่งความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ต้องการค้นหาของแต่ละคน สามารถตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลได้

6.Youtube  คือสื่อสังคมออนไลน์ประเภทใด และมีประโยชน์กับการศึกษาหรือไม่อย่างไร

                กลุ่มเครื่องมือสำหรับแบ่งปันใช้ร่วมกัน (Share Tools) เป็นเว็บไซต์ที่ผู้ให้บริการให้ผู้ใช้สามารถนำเสนอทรัพยากรสารสนเทศมัลติมีเดียที่หลากหลาย มีประโยชน์ในการศึกษา เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และตอบสนองความต้องการของการเรียนรู้ได้อย่างดี

7.ทักษะที่จำเป็นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาใหม่ของครู มีอะไรบ้าง

                1.ทักษะในการเข้าถึง
                2.ทักษะในการประเมิน
                3.ทักษะในการใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสร้างสรรค์
                4.ทักษะในการจัดการเชื่อมต่อสารสนเทศ
                5.ทักษะในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เหมาะสม
                6.ทักษะในการนำเสนอสื่อได้อย่างเหมาะสม
                7.ทักษะในการใช้เครื่องมือสื่อสาร เชื่อมโยงเครือข่าย และสื่อสังคมออนไลน์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
                8.ทักษะในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการวิจัย จัดระบบ และสื่อสารสนเทศได้อย่างเหมาะสม
                9.ทักษะในการใช้ซอฟท์แวร์ที่เหมาะสมกับการศึกษาระดับต่างๆ ได้
                10.ทักษะในการพัฒนาตนเองให้ทันสมัยและติดตามความเจริญก้าวหน้าของนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษาได้
                11.ทักษะในการวิเคราะห์และแสดงให้เห็นปัญหา

8.สายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) มีประโยชน์ต่อการศึกษาอย่างไร

                เส้นใยแก้วนำแสงนำไปใช้เป็นสายนำสัญญาณหลัก ในการเชื่อมต่อโครงข่ายต่างๆ ที่สำคัญของชาติ เช่น โครงการเครือข่ายการศึกษาแห่งชาติ (NEdNet) โครงข่ายเครือข่าย Uninet ของสำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา กระทรงศึกษาธิการ

9.วิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 1G-4G มีความแตกต่างกันอย่างไร


วิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่าน
เครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคต่างๆ


คุณสมบัติของวิวัฒนาการตามยุคต่างๆ

ยุค 1 G

1.ระบบแบบเซลลูล่าร์
2.รับส่งสัญญาณใช้วิธีผสมสัญญาณแอนะล็อก


ยุค 2 G

1.เข้ารหัสสัญญาณเสียงโดยบีบอัดสัญญาณเสียงรูปแบบดิจิทัล
2.มีการติดต่อจากสถานีลูกกับสถานีหลัก 2 แบบ คือ TDMA และ CDMA


ยุค 2.5 G

1.กำเนิดเทคโนโลยี GPRS
2.ให้บริการรับส่งแบบแพคเก็ตที่ความเร็วระดับ 20 – 40 Kbps


ยุค 2.75 G

1.มีการใช้เทคโนโลยี EDGE
2.ความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดประมาณ 384 กิโลบิตต่อวินาที ความเร็วที่ใช้จริงประมาณ 80 -100 Kbps


ยุค 3 G

1.เน้นการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยความเร็วสูง 384 Kbps
2.สามารถใช้บริการ Multimedia ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
3.เพิ่มประสิทธิภาพในการรับส่ง File ที่มีขนาดใหญ่
4.การใช้บริการ Video/Call Conference


ยุค 4 G

1.สนับสนุนการให้บริการมัลติมีเดียในลักษณะที่สามารถโต้ตอบได้
2.มีแบนด์วิด กว้างกว่า สูงกว่า 3G
3.ใช้ได้ทั่วโลก
4.ค่าใช้จ่ายถูกลง
5.คุ้มค่าต่อการลงทุนด้านโครงข่าย
6.ความเร็วในการรับส่งข้อมูลประมาณ 100 – 1024กิโลบิตต่อวินาที

               
ตั้งแต่ยุค 1G-4G คือพัฒนาการของความเร็วระบบการเชื่อมต่อสัญญาโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศที่มีความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

10.หลักการวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของแหล่งข้อมูลสารสนเทศบนเว็บไซต์เครือข่ายอินเตอร์เน็ตมีอะไรบ้าง

                1.ประเมินวัตถุประสงค์ความต้องการในการนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้
                2.พิจารณาด้านคุณภาพเว็บไซต์ที่ใช้ในการเผยแพร่

                3.พิจารณาด้านเนื้อหาข้อมูลสารสนเทศบนเว็บไซต์ที่นำเสนอ

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

กิจกรรมท้ายบทที่ 7 หลักการและทฤษฎีการเรียนรู้กับเทคโนโลยีการศึกษา

1.การเรียนรู้หมายถึงอะไร

            การเรียนรู้หมายถึงลักษณะของการปรับเปลี่ยนของบุคคลอันมีผลเนื่องมาจากการได้รับสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดประสบการณ์ สื่อการเรียนรู้ที่สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับผู้เรียนได้

2.จงอธิบายเป้าประสงค์ของการเรียนรู้ และองค์ประกอบของการเรียนรู้

            เป้าประสงค์ของการเรียนรู้

            1.ด้านพุทธิพิสัย (Cognitive Domain) คือ สิ่งที่เป็นผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของการเรียนรู้ที่เป็นความสามารถทางสติปัญญา
            2.ด้านจิตพิสัย (Affective Domain) คือ สิ่งที่เป็นผลของการเรียนรู้ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความรู้สึก
            3.ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor Domain) คือ สิ่งที่เป็นผลของการเรียนรู้ที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการปฏิบัติ

            องค์ประกอบของการเรียนรู้

            1.แรงขัน (Drive) คือ เป็นความต้องการที่เกิดขึ้นภายในตัวบุคคล เป็นความพร้อมที่เรียนรู้ของบุคคลทั้งสมอง ระบบประสาทสัมผัสและกล้ามเนื้อ แรงขับและความพร้อมเหล่านี้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยา หรือพฤติกรรมที่จะชักนำไปสู่การเรียนรู้ต่อไป
            2.สิ่งเร้า (Stimulus) คือ เป็นสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้บุคคลมีปฏิกิริยา
            3.การตอบสนอง (Response) คือ เป็นปฏิกิริยา หรือพฤติกรรมต่างๆ ที่แสดงออกมาเมื่อบุคคลได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้า
            4.การเสริมแรง (Reinforcement) คือ เป็นการให้สิ่งที่มีอิทธิพลต่อบุคคลอันมีผลในการเพิ่มพลังให้เกิดการเชื่อมโยง ระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองเพิ่มขึ้น

3.ถ้านิสิตต้องการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนต้องใช้หลักและทฤษฎีใดในการออกแบบ จงอธิบาย
             กลุ่มพุทธิปัญญา เป็นพื้นฐานในการออกแบบสื่อการเรียนการสอนทั้งบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และบทเรียนผ่านเว็บ ในลักษณะสื่อหลายมิติ ที่ให้ผู้เรียนได้เกิดการรู้คิดตามความแตกต่างของแต่ละคน

4.สภาพแวดล้อมการเรียนรู้มีอะไรบ้าง จงอธิบาย

1.สภาพแวดล้อมทางด้านกายภาพ เป็นสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นที่สามารถสัมผัสได้ด้วยตา      และกายสัมผัส
2.สภาพแวดล้อมทางด้านจิตภาพ สภาพแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกจิตใจ เจตคติของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนการสอน
3.สภาพแวดล้อมทางด้านชุมชนสังคม สภาพแวดล้อมที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
4.สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี เป็นสภาพแวดล้อมที่เข้ามามีบทบาทต่อการเรียนรู้ของมนุษย์อย่างมาก ซึ่งได้เข้ามาส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ
5.สภาพแวดล้อมด้านกระบวนการรูปแบบและเทคนิคการสอน เป็นสภาพแวดล้อมที่มีความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบที่จะสอดแทรกให้การเรียนรู้มีลักษณะที่น่าสนใจ

5.ให้นิสิตเขียนผังความคิดทฤษฎีการเรียนรู้กับการประยุกต์ในการเรียนการสอนและเทคโนโลยีการศึกษา


6.ทฤษฎีกลุ่มการสร้างสรรค์ความรู้คอนสตรัคติวิสต์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง พร้อมทั้งอธิบายความแตกต่าง

Constructivism
Constructionism
1.ผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์ความรู้และความเข้าใจจากประสบการณ์และการสังเกต โดยออกมาเป็นในลักษณะคำตอบ หรือข้อเท็จจริงจากการทดลอง
1.ผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์ความรู้ออกมาเป็นรูปธรรมด้วยผลงาน โครงงาน ชิ้นงาน ตลอดจนการนำเสนอผลงาน
2.ความรู้ที่ได้นั้นต้องอาศัยประสบการณ์เดิม ต้องมีพื้นฐานความรู้เดิมมาก่อน
2.ความรู้ที่ได้ไม่จำเป็นต้องอาศัยพื้นฐานประสบการณ์เดิม แต่สามารถเกิดจากการกระทำ ลงมือปฏิบัติ
3.ยุทธวิธีในการจัดกิจกรรมใช้ Problem Based Learning
3.ยุทธวิธีในการจัดกิจกรรมใช้ Project Based Learning
4.ให้ครูและแหล่งข้อมูลตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ลงมือปฏิบัติเป็นสื่อในการเรียนรู้
4.ใช้สื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ความรู้ของผู้เรียน
5.แนวทางการสอนมีลักษณะเริ่มจากส่วนใหญ่ไปหาส่วนย่อย โดยเน้นแนวคิดใหญ่
5.แนวทางการสอนมีความหลากหลายโดยให้ผู้เรียนเป็นผู้วางแผน คิดไปทำไป ในลักษณะที่ไม่มีแบบแผนขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้เรียน